ความเป็นมาของมหกรรมเซี่ยงไฮ้ EXPO 2010

เซี่ยงไฮ้ Expro 2010

เซี่ยงไฮ้ที่คุ้นเคยคงหนีไม่พ้น “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” หนังดังที่ถูกนำมาสร้างใหม่หลายต่อหลายครั้ง ภาพเก่าๆจากหนังยังคงติดตาชาวไทย และชาวโลก ทุกวันนี้เซี่ยงไฮ้ได้ถูกรัฐบาลจีนวางนโยบายให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ภาพล่าสุดของเซี่ยงไฮ้ที่ถูกนำเสนอต่อชาวโลก นั่นคือ การเป็นเจ้าภาพงาน EXPRO 2010 ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับโลกที่จะจัด1ครั้งในทุกๆ5ปี เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางด้านภาคจะวันออก ของจีน เนื่องจากมีภูมิประเทศที่เหมาะสม และสะดวกต่อการค้า มีแม่น้ำหวงผู่ไหลผ่านกลางเมือง และห่างจากปากแม่น้ำแยงซีเพียงไม่กี่ไมล์ ทำให้สามารถขนสินค้าจากเมืองริมฝั่งแยงซีมายังเซี่ยงไฮ้อย่างง่ายดาย เซี่ยงไฮ้ยังมีคลองลำเลียงสินค้าจากเมืองซูโจว ซึ่งเป็นตลาดผ้าไหมที่ใหญ่ และเก่าแก่ของจีน ส่วนทางเหนือของเซี่ยงไฮ้มีคลองที่เรียกชื่อว่า คลองจักรพรรดิ ซึ่งเปนคลองที่ขุดขึ้นจากปักกิ่งถึงหังโจว โดยที่หังโจวนั้นเป็นเมือง ที่อยู่ใกล้กับเซี่ยงไฮ้ ทำให้การติดต่อกับเมืองทางภาคเหนือทำได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ส่วนตึกรามบ้านช่องในแบบตะวันตกที่เราเห็นกันให้หนัง เจ้าพ่อเซียงไฮ้นั้น เป็นผลมาจากในช่วงราชวงศ์ชิง จีนได้เปิดให้ต่างชาติเข้ามาทำการค้าเสรี โดยมีการแบ่งพื้นที่ให้ชาวต่างชาติเช่า ทำให้ในตัวเมือง ปรากฏอาคารเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ปารีสเห่งตะวันออก EXPO 2010 SHANHHAI งาน THE WORLD EXPOSITION หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า งานมหกรรมโลก เป็นงานแสดงนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะเปรียบได้กับ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของภาคเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และเทคโนโลยี โดยครั้งแรกจัดขึ้นที่มหานครลอนดอนในปี ค.ศ.1851 สำนักงานมหกรรมโลก หรือ Bureau of International Exposition (BIE) ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศ ภายใต้สนธิสัญญาขององค์การสหประชาชาติ ได้ถือลิขสิทธิ์การ จัดงาน โดยเจ้าภาพของงานจะต้องเป็นภาคีสมาชิกของ BIE (ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีสมาชิกในปี พ.ศ.2536) วัตถุประสงค์ของงานจะแตกต่างจาก งานจัดแสดงสินค้า หรือ trade fair ซึ่งจะมีวัตถุประสงค์ในการค้า งานworld expo จะมีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ในด้านต่างๆ งานมหกรรมโลกครั้งล่าสุดที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดขึ้นในบริเวณสองฝั่งของแม่น้ำหวงผู่เจียง ในระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-31 ต.ค.2553 โดยมีประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมงานมากกว่า 200 ประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเป็นงานมหกรรมโลกครั้งที่มีผู้เข้าร่วมงาน และเข้าชมงาน มากที่สุด จำนวนผู้ชมที่ทางผู้จัดคาดการณ์ไว้อยู่ที่70ล้านคน ภายในงาน ตลอดระยะเวลาจัดงานจะมีกิจกรรมกว่า20,000รอบ ประกอบด้วยกิจกรรมของทางประเทศเจ้าภาพที่เป็นการแสดงความทันสมัยของ ประเทศจีนยุคใหม่ และการแสดงแบบดั้งเดิมที่บ่งบอกที่มาความเป็นไปของประเทศจีนตั้งแต่ครั้งโบราณ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมของประเทศ และองค์กร ระหว่างประเทศอื่นๆที่เข้าร่วมจัดงาน สำหรับประเทศไทย ก็ได้เข้างานมหกรรมโลกครั้งนี้ด้วยในฐานะของประเทศภาคีสมาชิก ส่วนจัดงานของประเทศ ไทยมี ”ศาลาไทย” ซึ่งแสดงถึงความเป็นวิถีไทย การแสดงนิทรรศการจะเป็นการนำเสนอในด้านศิลปวัฒนธรรมต่างบนแนวคิดความเป็นไทย วิถีแห่งความ ยั่งยืนของชีวิต (Thinness: Sustainable Ways of Life) โดยศาลาไทย และพื้นที่จัดแสดงของประเทศมีพื้นที่ถึง 3,117 ตารางเมตรศาลาไทยได้รับโหวต จาก คณะผู้เข้าจัดเตรียมงานจากประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆว่าเป็น1ใน10สิ่งก่อสร้างของงานที่น่าเข้าชมถูก สร้างโดยใช้สัญลักษณ์ของอาคาร ไทยใช้รูปเส้นสายลายกนกที่เปรียบได้กับสายน้ำ ใบไม้ เปลวไฟซึ่งเป็นลวดลายของธรรมชาติ สัญลักษณ์นำโชคของอาคารศาลาไทยใช้ยักษ์ไทย อินทรชิต โดย เปลี่ยนรูปแบบเป็นยักษ์การ์ตูนน่ารักในชื่อใหม่ว่า“ยักษ์ไท”มีบุคลิกน่ารัก น่าเอ็นดู แฝงด้วยความสุภาพอ่อนน้อมในฉบับของความเป็นไทย ข้อมูลทั่วไป การเดินทางจากกรุงเทพใช้เวลา4ชม.จากท่าอากาศสุวรรณภูมิไปยังท่าอากาศยานผู่ตง จากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองมีระยะห่าง 33 กิโลเมตร ทั้งนี้สามารถ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าแม่เหล็ก แม็คเลฟ ที่วิ่งบนรางแม่เหล็ก ใช้เวลา7นาทีกับ 20วินาที เท่านั้น บัตรเข้าชมงานราคา 160 หยวน (ประมาณ 800 บาท) และยังมีบัตรพิเศษอื่นๆ อาทิเช่น บัตรเข้าชมแบบ3วัน, 7วัน และบัตรราคาพิเศษสำหรับ เด็ก นักเรียน คนชรา คนพิการ และกรุ๊ปทัวร์ พิธีเปิดอาคารนิทรรศการของแต่ละประเทศจะจัดขึ้นในช่วงเวลา 9.00-9.30 น. ของทุกวัน งานกิจกรรมที่สำคัญจะมีพิธีเปิด-ปิด และวันของประเทศต่างๆที่เข้าร่วมงาน วันองค์กรสากล และวันสำคัญของประเทศที่เข้าจัดงาน โดยการแสดงจะเป็น นาฏศิลป์ และคอนเสิร์ตแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโดยเป็นการจัดแสดงสัญจรเวียนไปตาม ส่วนจัดงานต่างๆ

เขียนโดย... พงศ์ธนิต ถนอมศักดิ์ยุทธ (CEO Central millennium logistic , Thailand)